เรียกได้ว่า น้ำสต๊อก เป็นไอเทมที่ต้องมีติดครัวไว้เลยทีเดียว เพราะเปรียบเสมือนเป็นน้ำซุปวิเศษ ที่ช่วยปรุงทุกเมนูอาหารให้มีรสชาติกลมกล่อมได้อย่างง่ายดาย แต่ถ้าให้พูดถึงวิธีการทำนี่สิ หลาย ๆ คนอาจจะคิดว่าต้องใช้เวลาในการทำนาน และต้องเตรียมวัตถุดิบหลายอย่าง จนรู้สึกถอดใจ หรือบางคนก็อยากจะไปสมัครคอร์สเรียนทำอาหารเพื่อเรียนรู้วิธีการทำน้ำสต๊อกกันเลยทีเดียว
แต่ถ้าหากคุณได้มาเห็นบทความนี้แล้ว เพียงแค่อ่านจนจบ ก็จะได้วิธีลัดในการทำน้ำสต๊อก ให้ซุปใส รสชาติหวานน้ำต้มกระดูก ที่ไม่เหมือนใครอย่างแน่นอน
เรียนทำอาหาร ทำน้ำสต๊อกจบได้ในบทความเดียว
น้ำสต๊อกตามแบบฉบับ ต้องมีน้ำที่ใส ให้รสชาติหวานน้ำต้มกระดูก มีความกลมกล่อม และสามารถเข้าได้กับทุกเมนู ซึ่งถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่ยังไม่เคยทำได้สำเร็จ มาเรียนทำอาหารที่มาพร้อมเคล็ดลับในการเตรียมวัตถุดิบ และขั้นตอนการทำน้ำสต๊อกง่าย ๆ จากบทความนี้ได้เลย
วัตถุดิบที่สำคัญในการทำน้ำสต๊อก
- กระดูกสันหลังหมู 1 กิโลกรัม
- เกลือ 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำสะอาด 2 ลิตร
- รากผักชี 1 – 2 ราก
- พริกไทยดำ ตามชอบ
- หัวไชเท้า 1 หัว
- ผักกาดขาว 1 หัว
ขั้นตอนการทำน้ำสต๊อก ให้หวานน้ำต้มกระดูก
- นำเกลือมาล้างกับกระดูกสันหลังหมู ประมาณ 2 – 3 น้ำ จนกว่ากระดูกหมูจะสะอาด (สังเกตที่น้ำ ให้ล้างจนกว่าน้ำจะใส ไม่ขุ่น เป็นเคล็ดลับในการกำจัดมันที่ติดมากับกระดูกหมู ช่วยให้น้ำสต๊อกใส)
- นำกระดูกหมูที่ล้างเสร็จแล้ว ลงไปต้มในน้ำสะอาด โดยตั้งไฟแรงให้เดือด และค่อย ๆ ช้อนฟองไขมันออกเรื่อย ๆ เอาออกให้ได้มากที่สุด ซึ่งวิธีนี้เป็นหนึ่งในขั้นตอนการเรียนทำอาหารที่ใช้ในแทบจะทุกเมนูต้ม เพราะการช้อนฟองไขมันออก จะทำให้น้ำซุปใสได้นั่นเอง
- เปลี่ยนเป็นไฟกลาง ทุบรากผักชีและพริกไทยดำใส่ลงไป ตามด้วยผักกาดขาว และหัวไชเท้าที่หั่นเป็นชิ้นแล้วตามลงไปด้วย
- ใช้เวลาต้มไปประมาณ 1.30 – 2 ชั่วโมง หากมีฟองไขมันก็ช้อนออกไปด้วย ต้มจนเนื้อที่ติดมากับกระดูกหมูมีความเปื่อย และสีของน้ำสต๊อกจะค่อย ๆ ใสขึ้น (การใช้ไฟกลางในการต้มนาน ๆ จะช่วยให้น้ำสต๊อกมีสีใส ดูน่ารับประทาน)
- เมื่อวัตถุดิบทุกอย่างสุก น้ำสต๊อกมีสีใสอย่างที่ต้องการแล้ว ให้ปิดไฟ และกรองเอาแต่น้ำสต๊อกไปใช้ในการทำอาหารเมนูต่าง ๆ โดยอาจจะแบ่งใส่กล่องและแช่เย็น หรือแช่แข็งเพื่อให้เก็บไว้ได้นาน ส่วนกระดูกหมูและผักในหม้อ ก็สามารถนำไปทำอาหารต่อได้หลากหลายเมนู เช่น ต้มเล้งแซ่บ หรือต้มจืด เป็นต้น
น้ำสต๊อกเก็บได้นานแค่ไหน หากใช้ครั้งเดียวไม่หมด
หากน้ำสต๊อกใช้ไม่หมดในครั้งเดียว ก็ยังสามารถเก็บไว้ใช้ต่อได้ ส่วนระยะเวลาสำหรับการจัดเก็บ ขึ้นอยู่กับวิธีการจัดการ และทำได้ไม่ยากดังนี้
- กรองน้ำสต๊อกส่วนที่เหลือด้วยผ้าขาวบางอีกครั้ง โดยไม่ต้องคน
- เก็บใส่ภาชนะที่มีฝาปิดมิดชิด และแช่ในช่องธรรมดา สามารถเก็บได้ 2 – 3 วัน
- เก็บใส่ภาชนะที่มีฝาปิดมิดชิด และแช่ในช่องฟรีซ สามารถเก็บได้ประมาณ 3 – 6 เดือน
- อีกวิธีที่หลายคนนิยมคือ การแบ่งใส่ใช่บล็อกทำน้ำแข็งแล้วแช่ในช่องฟรีซ ซึ่งจะสามารถแบ่งมาใช้งานได้สะดวกขึ้น แต่จะเก็บได้ประมาณ 1 เดือน เนื่องจากไม่ได้มีการปิดผนึกอย่างมิดชิด
ทั้งนี้การเก็บรักษาน้ำสต๊อกสิ่งที่ต้องคำนึงถึงร่วมด้วยก็คือ “ภาชนะ” ที่ใส่ ควรจะใช้เป็นแบบฟู้ดเกรด มีมาตรฐานต่อการบรรจุอาหาร ปราศจากสารอันตรายต่าง ๆ และหากต้องการแช่แข็งก็ควรใช้ภาชนะที่ทนความเย็นถึงระดับติดลบได้ จะทำให้ปลอดภัยเมื่อนำมาบริโภค
เห็นไหมว่าคอร์สเรียนทำอาหารทำน้ำสต๊อกให้มีสีใส และมีรสชาติหวานน้ำต้มกระดูกของเรา ทำไม่ยากเลย เคล็ดลับอยู่ที่การล้างกระดูกหมูให้สะอาดและใช้ไฟกลางหลังจากช้อนฟองไขมันเสร็จแล้ว และต้องใช้ไฟกลางตลอดเวลาในการต้ม นอกจากนี้คุณยังสามารถปรุงรสชาติได้ตามชอบ เช่น การใส่ซีอิ๊วขาว ซอสปรุงรส พริกไทยป่น หรือผักต่าง ๆ ที่ชื่นชอบ เป็นต้น